ความสำคัญของการตรวจอัลตราซาวด์ตับในคุณแม่ตั้งครรภ์

  • ตรวจสอบสุขภาพตับของคุณแม่ ตับเป็นอวัยวะที่สำคัญในการขับของเสียและสารพิษออกจากร่างกาย การตรวจอัลตราซาวด์ตับช่วยให้แพทย์สามารถตรวจหาความผิดปกติ เช่น ตับอักเสบ ตับแข็ง หรือก้อนเนื้อในตับ ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และทารก
  • ป้องกันภาวะแทรกซ้อน ความผิดปกติของตับอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia) หรือการเกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด
  • ประเมินการทำงานของระบบทางเดินน้ำดี การอุดตันของทางเดินน้ำดีหรือนิ่วในถุงน้ำดีอาจส่งผลต่อการย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร ซึ่งสำคัญต่อการเจริญเติบโตของทารก

การเตรียมตัวก่อนการตรวจอัลตราซาวด์ตับ

  • งดอาหารและเครื่องดื่มบางชนิด คุณแม่อาจถูกขอให้งดอาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารที่ก่อให้เกิดแก๊ส เพื่อให้ภาพอัลตราซาวด์ชัดเจนยิ่งขึ้น
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย เลือกสวมเสื้อผ้าที่ง่ายต่อการเปิดเผยบริเวณหน้าท้อง
  • แจ้งประวัติสุขภาพ หากคุณมีประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับตับหรือระบบทางเดินน้ำดี ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ

ขั้นตอนการตรวจ

  1. การทาเจลอัลตราซาวด์ แพทย์จะทาเจลบนผิวหนังบริเวณหน้าท้อง เพื่อช่วยในการส่งผ่านคลื่นเสียง
  2. การเคลื่อนหัวตรวจ แพทย์จะเคลื่อนหัวตรวจบนบริเวณหน้าท้อง เพื่อสร้างภาพของตับและอวัยวะใกล้เคียง
  3. ระยะเวลาการตรวจ การตรวจมักใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที และไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด

สิ่งที่ควรทราบหลังการตรวจ

  • ผลการตรวจ แพทย์จะอธิบายผลการตรวจและแนะนำการดูแลสุขภาพต่อไป
  • การติดตามผล หากพบความผิดปกติ อาจต้องมีการตรวจเพิ่มเติมหรือการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์