การตรวจระบบทางเดินปัสสาวะในเด็กมีหลายวิธี โดยอัลตราซาวด์และการส่องกล้องเป็นสองทางเลือกหลักที่ใช้กันมาก วิธีไหนเหมาะสมขึ้นอยู่กับอาการของเด็กและเป้าหมายของการวินิจฉัย
เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย
1 อัลตราซาวด์ระบบทางเดินปัสสาวะ
✅ ข้อดี
- ปลอดภัย ไม่มีการใช้รังสี
- ไม่เจ็บปวดและไม่ต้องใช้ยาชา
- สามารถตรวจหาความผิดปกติของไต กระเพาะปัสสาวะ และทางเดินปัสสาวะได้อย่างละเอียด
❌ ข้อจำกัด
- อาจไม่สามารถตรวจรายละเอียดภายในท่อปัสสาวะได้ลึกเท่าการส่องกล้อง
- ภาพที่ได้อาจไม่ชัดเจนหากเด็กไม่สามารถอยู่นิ่งระหว่างการตรวจ
2 การส่องกล้องระบบทางเดินปัสสาวะ
✅ ข้อดี
- ให้ภาพที่ละเอียดและชัดเจนภายในท่อปัสสาวะ
- สามารถใช้ร่วมกับการรักษา เช่น การตัดเนื้องอกหรือเอาก้อนนิ่วออก
❌ ข้อจำกัด
- เป็นหัตถการที่อาจทำให้เด็กไม่สบายตัวหรือรู้สึกเจ็บ
- ต้องใช้ยาชาหรือยาสลบในบางกรณี
- มีความเสี่ยงของการติดเชื้อเล็กน้อยหลังการตรวจ
วิธีเลือกการตรวจที่เหมาะสม
- เด็กที่มีอาการปวดหรือปัสสาวะผิดปกติ ควรเริ่มจากอัลตราซาวด์ก่อน เพราะเป็นวิธีที่ไม่เจ็บและปลอดภัย
- เด็กที่แพทย์สงสัยว่ามีความผิดปกติภายในท่อปัสสาวะ การส่องกล้องอาจเป็นตัวเลือกที่แม่นยำกว่า
- กรณีที่ต้องเฝ้าติดตามสุขภาพไตและกระเพาะปัสสาวะระยะยาว อัลตราซาวด์เป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากสามารถทำซ้ำได้โดยไม่มีผลกระทบ