เมื่อสงสัยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ การตรวจวินิจฉัยที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ อัลตราซาวด์และ MRI ต่างก็เป็นเครื่องมือที่แพทย์ใช้ในการตรวจต่อมไทรอยด์ แต่ทั้งสองวิธีนี้มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน
อัลตราซาวด์ต่อมไทรอยด์
- หลักการทำงาน ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงสร้างภาพต่อมไทรอยด์
- ข้อดี
- ไม่ใช้รังสี ปลอดภัยแม้กระทั่งกับหญิงตั้งครรภ์
- ไม่เจ็บ ไม่ต้องฉีดสารทึบรังสี
- เห็นภาพต่อมไทรอยด์และก้อนเนื้อได้ชัดเจนแบบเรียลไทม์
- ราคาไม่แพง
- ข้อเสีย
- มองไม่เห็นโครงสร้างที่อยู่ลึกหรือถูกบดบังโดยกระดูก
- ไม่สามารถบอกชนิดของก้อนเนื้อได้แน่ชัด
MRI ต่อมไทรอยด์
- หลักการทำงาน ใช้คลื่นแม่เหล็กและคลื่นวิทยุสร้างภาพต่อมไทรอยด์
- ข้อดี
- ให้ภาพที่มีความละเอียดสูงมาก เห็นรายละเอียดของเนื้อเยื่อได้ดี
- สามารถตรวจดูการลุกลามของมะเร็งไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียงได้
- ไม่ใช้รังสีเอกซ์
- ข้อเสีย
- ใช้เวลานานในการตรวจ อาจต้องนอนนิ่งๆ ในเครื่อง MRI เป็นเวลานาน
- ราคาค่อนข้างสูง
- ผู้ที่มีโลหะฝังในร่างกายหรืออุปกรณ์บางชนิดไม่สามารถตรวจได้
เลือกแบบไหนดี?
- อัลตราซาวด์ เหมาะสำหรับการตรวจคัดกรองเบื้องต้น ตรวจติดตามก้อนเนื้อ และประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์
- MRI เหมาะสำหรับกรณีที่สงสัยมะเร็งต่อมไทรอยด์ และต้องการตรวจดูการลุกลามของโรคอย่างละเอียด หรือในกรณีที่อัลตราซาวด์ไม่สามารถให้ข้อมูลที่ชัดเจนได้
ปรึกษาแพทย์เพื่อการตัดสินใจที่เหมาะสม
แพทย์จะพิจารณาจากอาการ ประวัติสุขภาพ และความเสี่ยงของคุณ เพื่อแนะนำวิธีตรวจที่เหมาะสมที่สุด อย่าลังเลที่จะสอบถามข้อสงสัยเพื่อให้คุณมั่นใจในการตัดสินใจ