การดูแลสุขภาพของตับเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม ตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่สำคัญหลายอย่างในร่างกาย เช่น การกรองสารพิษ การผลิตโปรตีน และการสะสมพลังงาน การตรวจอัลตราซาวด์ตับ เป็นวิธีที่ไม่เจ็บปวดและมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบสภาพของตับ แต่คุณอาจไม่ทราบถึงประโยชน์ทั้งหมดของการตรวจนี้ มาดูกันว่าการตรวจอัลตราซาวด์ตับมีประโยชน์อย่างไรบ้าง

ประโยชน์ของการตรวจอัลตราซาวด์ตับ

  • ตรวจพบความผิดปกติในระยะเริ่มต้น การตรวจอัลตราซาวด์สามารถตรวจพบความผิดปกติของตับ เช่น ก้อนเนื้อ ซีสต์ หรือเนื้องอกในระยะเริ่มต้น ซึ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาที่ประสบผลสำเร็จ
  • ปลอดภัยและไม่มีรังสีเอ็กซ์ แตกต่างจากการตรวจด้วยรังสีเอกซ์หรือ CT สแกน การตรวจอัลตราซาวด์ไม่ใช้รังสี ทำให้ปลอดภัยสำหรับทุกคน รวมถึงสตรีมีครรภ์
  • ประเมินสภาพของท่อน้ำดีและถุงน้ำดี นอกจากตับแล้ว การตรวจยังสามารถตรวจสอบความผิดปกติในท่อน้ำดีและถุงน้ำดีได้ ช่วยในการวินิจฉัยโรคนิ่วหรือการอุดตัน
  • ใช้เวลาไม่นานและไม่เจ็บปวด การตรวจใช้เวลาเพียง 15-30 นาที และไม่ต้องมีการเจาะหรือการเตรียมตัวที่ซับซ้อน
  • ติดตามผลการรักษา สำหรับผู้ที่มีปัญหาตับ เช่น ไขมันพอกตับหรือตับอักเสบ การตรวจอัลตราซาวด์สามารถใช้ติดตามความคืบหน้าของการรักษาได้

เมื่อไหร่ควรเข้ารับการตรวจ

  • มีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องด้านขวาบน ผิวเหลือง ตาเหลือง หรือเบื่ออาหารโดยไม่มีสาเหตุ
  • มีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคตับ หากสมาชิกครอบครัวมีประวัติโรคตับ ควรพิจารณาการตรวจเพื่อตรวจสอบความเสี่ยง
  • ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ใช้ยาที่อาจมีผลต่อตับ หรือมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับตับ

การเตรียมตัวก่อนการตรวจ

  • งดอาหารและน้ำดื่ม ควรงดอาหารและน้ำดื่มอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนการตรวจ เพื่อให้ผลการตรวจชัดเจน
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย เพื่อความสะดวกในการเข้าถึงบริเวณท้อง
  • แจ้งข้อมูลให้แพทย์ทราบ หากกำลังใช้ยา หรือมีอาการแพ้ ควรแจ้งแพทย์หรือผู้ตรวจ