ตับเป็นอวัยวะที่มีบทบาทสำคัญในร่างกาย ทำหน้าที่กำจัดสารพิษ สร้างโปรตีน และช่วยในการย่อยอาหาร แต่โรคตับหลายชนิดมักไม่แสดงอาการในระยะแรก การตรวจ อัลตราซาวด์ตับ จึงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการส่องทะลุและตรวจหาความผิดปกติที่อาจซ่อนอยู่
ทำไมการตรวจอัลตราซาวด์ตับถึงสำคัญ
- วินิจฉัยโรคได้แต่เนิ่นๆ ตรวจพบความผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อ ซีสต์ หรือตับอักเสบ ก่อนที่อาการจะปรากฏ
- ปลอดภัยและไม่เจ็บปวด ไม่ใช้รังสี ไม่มีผลข้างเคียง และไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวด
- รวดเร็วและแม่นยำ ใช้เวลาไม่นานและให้ผลการตรวจที่ช่วยในการวินิจฉัยอย่างแม่นยำ
การเตรียมตัวก่อนการตรวจ
- งดอาหารและเครื่องดื่ม ควรงดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนการตรวจ
- ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยา หากคุณรับประทานยาประจำ ควรสอบถามแพทย์ว่าควรหยุดยาหรือไม่
- สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย เพื่อความสะดวกในการตรวจและเปิดเผยบริเวณหน้าท้องได้ง่าย
ขั้นตอนการตรวจอัลตราซาวด์ตับ
- นอนบนเตียงตรวจ คุณจะถูกขอให้นอนหงาย และอาจต้องยกแขนขวาขึ้นเหนือศีรษะเพื่อให้เข้าถึงตับได้ง่ายขึ้น
- ทาเจลบนผิวหนัง เจลอุ่นจะถูกทาลงบนหน้าท้อง เพื่อช่วยในการส่งผ่านคลื่นเสียง
- การสแกนตับ แพทย์จะเคลื่อนหัวตรวจบนผิวหนังเพื่อจับภาพของตับและอวัยวะใกล้เคียง คุณอาจถูกขอให้หายใจเข้า-ออกหรือกลั้นหายใจชั่วครู่เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจน
- ระยะเวลาการตรวจ ใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที
- หลังการตรวจ สามารถกลับไปทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ ไม่มีผลข้างเคียง
สิ่งที่สามารถตรวจพบจากการตรวจอัลตราซาวด์ตับ
- ก้อนเนื้อหรือซีสต์ ช่วยในการวินิจฉัยเนื้องอกหรือซีสต์ในตับ
- ภาวะตับอักเสบหรือตับแข็ง ตรวจหาความผิดปกติของเนื้อตับ
- นิ่วในถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดี ตรวจหาการอุดตันที่อาจส่งผลต่อการทำงานของตับ
- ความผิดปกติของเส้นเลือดในตับ ตรวจสอบการไหลเวียนของเลือดในตับ